>กิเลศในสภาวะของผู้นำ ชาติถึงเจริญให้มองในส่วนดีของกิเลศอย่ามองส่วนเลวเพียงส่วนเดียว
1.ต้องมีความทะยานอยาก ยิ่งมีมากก็ยิ่งดี สำหรับประชาชน ตัวเขาเองจะหลงไปทางไหนก็แล้วแต่เขาแต่ทำแล้ว คนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดก็คือประชาชน ยิ่งผู้นำทะยานยากมากเท่าใดความเจริญ ความมั่งมีศรีสุข ก็ตกอยู่กับประชาชนมากเท่านั้น ถ้าผู้นำไม่ทะยานอยาก สมถะเกินไปแล้วอะไรจะมาถึงประชาชน เช่น ความทะยานอยากก็เป็นกิเลศอย่างหนึ่ง มองในส่วนที่ดีของมัน เช่นเราจะต้องทำให้คนอื่น เห็นความสามารถของเราให้ได้ (จะได้รู้ว่าข้าเก่ง เพื่อคนจะได้ยกย่องสรรเสริญ)เราจะต้องทำให้ประเทศเรา เป็นศูนย์กลางในการค้าให้ได้(ทำให้ผู้คนภูมิใจ เราก็ได้คำเยินยอว่าเก่ง)เราจะต้องทำนั่นให้ได้ ทำนี่ให้ได้ ทำตรงโน้นให้ได้ แล้วประชาชนเขาจะเห็นว่าเราเก่งกล้าสามารถผลดีก็ตกอยู่กับประชาชน ส่วนตัวเขาจะหลงในความเก่งของตัวเอง ก็แล้วแต่เขา แต่ถ้าทำให้ชาติเจริญรุ่งเรือง ผู้คนมีความสุข ตัวผู้นำจะหลงว่าข้าเก่งแค่ไหน ก็แล้วแต่เขาถ้าไม่มีความทะยานอยากในโลกนี้แล้ว คงไม่มีการพัฒนา และเจริญได้ มาถึงขั้นนี้แน่นอน
2.ความอยากสร้างศรัทธา ถ้าไม่มีความอยากสร้างศรัทธา ก็ไม่มีความนับถือ ในตัวเองไม่มีความมั่นใจในตัวเอง การทำแล้ว ผู้คนศรัทธา ประโยชน์ตกกับผู้คน ส่วนตัวเขาเองก็เกิดความภูมิใจยิ่งอยากสร้าง ศรัทธามากเท่าใด ประชาชน ก็ได้รับ ผลประโยชน์มากเท่านั้น ส่วนตัวเขาจะหลงตัวเองขนาดไหน ก็แล้วแต่เขา ในเมื่อประชาชน ได้ประโยชน์สูงสุดจากการสร้าง อยากศรัทธาให้กับตัวเองของเขา แล้วเขาจะหลงไปสร้างศรัทธามากไปถึงไหนๆ ก็แล้วแต่เขา ขอให้ประโยชน์นั้นตกอยู่กับชาติบ้านเมือง ก็แล้วกัน ครับ ผมเพียงอยากนำเสนอ ในความคิด ในรูปแบบของผม ไม่เกี่ยวกับตัวบุคคลใดๆเลย ผมไม่อยู่ฝ่ายไหนทั้งสิ้น ผมอยู่กับ ประเทศนี้เมืองนี้เท่านั้นครับ
>กิเลศในสภาวะของผู้นำ
พฤษภาคม 11, 2011
Advertisements
ใส่ความเห็น